หลังจากที่เราไม่ได้ไปเยือนนานกว่า 3 ปี วันนี้ได้กลับไปเยือนชุมชมริมแม่น้ำท่าจีนแห่งนี้อีกครั้งนึง รู้สึกว่าคนน้อยลงไป ไม่คึกคักเหมือนกับแต่ก่อนเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว
เมื่อพูดถึงตลาดสามชุกแห่งนี้แล้ว หลายคนคงนึกถึงคำโฆษณาว่า ตลาดแห่งนี้มีอายุเก่าแก่กว่าร้อยปี หลายคนคงนึงถึงเสื้อยืดของฝาก ซึ่งมีให้เลือกหลายร้านและใส่กันทั่วบ้านทั่วเมือง
ในมุมของเราตลาดสามชุกมีดีตรงที่ตลาดยังคงรักษาความเป็นธรรมชาติที่ชาวบ้านมาเดินจับจ่ายซื้อสินค้ากันตามปกติ (คือไม่ใช่ตลาดสร้างภาพ) และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีร้านหนึ่งเดียวที่นี่ให้มาเยี่ยมชมกัน เช่น บ้านโค้ก ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักสะสม ที่ต้องมาชมคอลเล็กชั่นหลากหลายที่มีโลโก้ของโค้ก และร้านอาหาร/ของโบราณที่ให้มาเที่ยวชม เลือกซื้อ เลือกใช้บริการกัน
หมูตุ๋นร้อนๆ รอเสิร์ฟลูกค้าที่ร้านเถ้าแก่เบี้ยว |
วันนี้เสียดายไม่ได้เลี้ยวไปเยือนบ้านโค้ก แต่กลับไปเจอร้านถ่ายรูปโบราณ "ศิลป์ธรรมชาติ" ที่คราวที่แล้วไปไม่ได้แวะชม ร้านนี้มีรูปอดีตนายกอภิสิทธิ์อยู่ที่หน้าร้านด้วย (แต่ไม่ทราบว่าเคยมาเยือนหรือเปล่า) ในร้านมีชุดในสมัยอดีตให้เปลี่ยนเพื่อถ่ายรูปในบรรยากาศย้อนยุคให้เลือกมากมาย
ร้านศิลป์ธรรมชาติ มีรูปอดีตนายก อภิสิทธิ์อยู่มุมซ้าย |
เรายังได้มีโอกาสชิมไอติมกะทิสูตรโบราณ ที่คนขายต้องเขย่าถังเพื่อให้ไอติมแข็งด้วย (ถามคุณป้าว่าเขย่าถังให้ดูหน่อย แต่กลับลืมถ่ายวิดิโอ =.=)
คุณป้ากำลังโชว์ลีลาปั่นถังไอติม |
ร้านไอติมที่ว่า... |
นอกจากนี้ร้านหลายๆอย่างในตลาดเก่าแก่กว่า 100 ปีแห่งนี้ยังเปิดรอขาช๊อปและนักท่องเที่ยวให้มาเยือนเหมือนอย่างเคย เช่นร้านไอติมร้านหนึ่งที่โฆษณา(แอบ)ทะลึ่งๆ เช่น "เจาะไข่แตกโพล๊ะ - ดูดนมพุ่งปรี๊ด" ให้ลองทานกันด้วย (ไม่รู้ว่าจริงตามโฆษณาหรือเปล่า)
คุณป้าเจ้าของร้านหนึ่งในซอย 4 แอบกระซิบกับเราว่า ให้มาเที่ยวตลาดสามชุกอีกทีในช่วงปีใหม่ เพราะชาวบ้านจะช่วยกันทำกับข้าวมาเลี้ยงปีใหม่กันคนละอย่าง เป็นบรรยากาศแบบบ้านๆที่หาไม่ได้อีกแล้วในกรุงเทพฯ อันนี้ไม่รู้ว่าเป็นจริงอย่างไร ก็ต้องให้ทุกท่านไปลองกันเอง....
No comments:
Post a Comment